คำถาม ไม้ปิงปองแบบสำเร็จรูป กับ ไม้แบบประกอบ ต่างกันอย่างไร ?
คำตอบ ไม้ปิงปองสำเร็จรูป คือ ไม้ปิงปองที่มีวางจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป โดยเราจะเห็นได้ว่าไม้ปิงปองดังกล่าวมียางปิงปองติดมาให้สำเร็จพร้อมใช้งานทันที ไม้ปิงปองแบบนี้เหมาะสำหรับใช้เล่นปิงปองแบบสนุกสนานหรือเพื่อใช้ในการเรียนการสอนมากกว่า
ส่วนไม้ปิงปองแบบประกอบ คือ ไม้ปิงปองที่ผู้ใช้จะต้องเลือกไม้เปล่า และ ยางปิงปอง นำมาประกอบเองต่างหาก ซึ่งไม้ลักษณะแบบนี้จะเหมาะสำหรับนักกีฬาใช้งาน มีคุณบัติและประสิทธิภาพที่สูงกว่าไม้ปิงปองแบบสำเร็จรูป ช่วยในการพัฒนาฝีมือให้กับนักกีฬาและช่วยให้นักกีฬาตีลูกความหมุนแบบต่างๆ ได้มากกว่าไม้ปิงปองแบบสำเร็จรูปครับ ส่วนราคาจะต่างจากไม้ปิงปองแบบสำเร็จรูปมาก ต่างกันชนิดหลายเท่าตัว แต่จะให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่านั่นเอง
คำถาม ยางปิงปองคืออะไร ไม้เปล่ามีไว้ทำไม ?
คำตอบ หลักๆ แล้ว ยางปิงปองคืออุปกรณ์ที่ช่วยให้ความหมุนกับลูกปิงปอง ส่วนไม้เปล่าคืออุปกรณ์ที่ให้ความเร็วกับลูกปิงปอง
คำถาม ยางจีน - ยางญี่ปุ่น - ยางเยอรมัน ต่างกันอย่างไร ?
คำตอบ โดยทั่วไปยางปิงปองในโลกนี้จะมีแหล่งผลิตใหญ่ ๆ อยู่ 3 แห่ง ก็คือ ที่ประเทศจีน , ประเทศญี่ปุ่น และ ประเทศเยอรมัน โดยประเทศจีนจะมียี่ห้อเกี่ยวกับกีฬาปิงปองเยอะที่สุดเนื่องจากเป็นประเทศที่นิยมเล่นกีฬาปิงปอง เคยมีการสำรวจแล้วพบว่าประเทศจีนมีผู้นิยมเล่นกีฬาปิงปองทั้งระบบมากถึง 40 ล้านคน ซึ่งรวมกันมากกว่าคนเล่นปิงปองทั้งโลกรวมกัน ดังนั้นประเทศจีนจึงมีการผลิตยางปิงปองเยอะที่สุดและเน้นสินค้าไปที่ราคาถูกๆ ไม่แพงมาก เริ่มต้นจาก 100 กว่าบาทขึ้นไป คุณสมบัติของยางปิงปองโดยทั่วไปจะมีน้ำหนักมาก หน้ายางเหนียว ทนทาน ยึดเกาะลูกได้ดี ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ความหมุนส่วนความเร็วของลูกปิงปองจะไม่ค่อยเร็วมากนัก สำหรับฟองน้ำสมัยก่อนจะมีแต่ฟองน้ำแบบแข็งๆ แต่ปัจจุบันได้ผลิตฟองน้ำชนิดนิ่มๆ ขึ้นมาบ้าง เพื่อที่จะทำตลาดไปได้ทั่วโลก เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้เล่นจะนิยมเล่นฟองน้ำนิ่มๆ มากกว่าฟองน้ำแบบแข็ง
ส่วนยางปิงปองจากญี่ปุ่น จะเน้นสำหรับผู้เล่นที่ต้องการความหมุนและความเร็วสูง ฟองน้ำจะมีให้เลือกทั้งแบบฟองน้ำนิ่ม ฟองน้ำนิ่มแบบปานกลาง และฟองน้ำชนิดแบบแข็ง(แต่จะแข็งน้อยกว่ายางจีน) หน้ายางส่วนใหญ่โดยทั่วไปจะนิ่ม เนื้อหน้ายางจะใสกว่าหน้ายางจีน ราคาส่วนใหญ่จะเริ่มต้นตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป
สำหรับยางปิงปองจากเยอรมัน ราคาจะค่อนข้างสูง ราคาส่วนใหญ่จะเริ่มตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป หน้ายางจะใสและนิ่มมาก ฟองน้ำส่วนใหญ่จะนิ่ม การควบคุมทำได้ดี ประสิทธิภาพในการเล่นจะเน้นไปที่ความหมุนและการคอลโทรลลูกเป็นหลัก ในปัจจุบันจะเน้นการผลิตไปที่ยางปิงปองรุ่นใหม่ๆ ที่รองรับกติกาใหม่ของสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ I.T.T.F. เกี่ยวกับการห้ามทากาวสปีด จึงทำให้ยางจากเยอรมันไม่เหมาะกับการทาลอกกาว หรือทากาวบ่อย ๆ เพราะจะทำให้หน้ายางและฟองน้ำพังทันที
คำถาม ราคายางปิงปองทำไมจึงแตกต่างกันมาก ?
คำตอบ เนื่องจากยางปิงปองส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น และ ประเทศเยอรมัน ดังนั้นการตั้งราคาจึงตั้งราคาจากต้นทุนที่นำเข้าจากแต่ละประเทศซึ่งต้นทุนในการผลิตและเทคโนโลยี่ ตลอดจนวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตจะแตกต่างกัน
คำถาม ยางปิงปองอะไรดีที่สุด ?
คำตอบ ยางปิงปองที่ดีที่สุดก็คือ ยางปิงปองที่ตรงกับสไตล์การเล่นของคุณมากที่สุด ดังนั้นในการเลือกใช้ยางปิงปองคุณจึงต้องทราบว่า ด้านโฟร์แฮนด์คุณเล่นสไตล์แบบใด? ด้านแบ๊คแฮนด์คุณเล่นสไตล์แบบใด? เสียก่อน ซึ่งโดยทั่วไปยางปิงปองแต่ละแผ่นจะมีคุณสมบัติสไตล์การเล่นเฉพาะตัวอยู่ซึ่งบริษัทฯ ผู้ผลิตได้ผลิตขึ้นมาตามสไตล์การเล่นหลักๆ ทั่วไปที่เล่นกันอยู่ในปัจจุบันคือ สไตล์บุก OFFENSIVE , สไตล์รับ DEFENSIVE และสไตล์ทั้งรับและบุก ALLROUND อยู่แล้ว ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ยางให้เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของแต่ละคนให้มากที่สุด ประสิทธิภาพของยางปิงปองจึงจะสามารถนำออกมาใช้ได้อย่างสูงสุด
คำถาม ไม้เปล่าอะไรดีที่สุด ?
คำตอบ คำตอบเช่นเดียวกันกับยางปิงปองอะไรดีที่สุด
คำถาม ฟองน้ำนิ่ม กับ ฟองน้ำแข็ง ต่างกันอย่างไร ?
คำตอบ ฟองน้ำนิ่มจะควบคุมลูกได้ดีกว่า เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชอบเล่นลูกหมุนๆ ส่วนฟองน้ำแข็ง เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ขอบเล่นลูกพุ่ง ๆ เร็วๆ
คำถาม ฟองน้ำหนา กับ ฟองน้ำบาง ต่างกันอย่างไร ?
คำตอบ ฟองน้ำหนา ลูกจะพุ่งกว่าฟองน้ำแบบบาง ๆ ครับ
คำถาม ฟองน้ำจีน , ฟองน้ำญี่ปุ่น และฟองน้ำเยอรมัน ต่างกันอย่างไร ?
คำตอบ ฟองน้ำจีนส่วนใหญ่จะแข็ง ฟองน้ำญิ่ปุ่นจะมีทั้งฟองน้ำแบบนิ่มและแบบแข็ง ส่วนฟองน้ำเยอรมันส่วนใหญ่จะเป็นแบบนิ่มและแข็งปานกลาง
คำถาม ยางเรียบ กับ ยางเม็ด ต่างกันอย่างไร ?
คำตอบ ยางเรียบคือยางปิงปองที่มีหน้ายางเรียบๆ จะให้คุณสมบัติในการยึดเกาะลูกได้ดี ควบคุมลูกได้ง่าย เหมาะสำหรับเล่นลูกหมุนแบบต่างๆ ได้ทุกรูปแบบ ตีลูกปิงปองได้ทุกจังหวะ
ส่วนยางเม็ดจะมีทั้งประเภทเม็ดสั้นๆ และ เม็ดยาว ซึ่งยางเม็ดชนิดเม็ดสั้นจะควบคุมลูกได้ดี รับลูกเสริฟได้ง่าย ส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องของความเร็ว ส่วนความหมุนจะให้ความหมุนน้อยกว่ายางเรียบ จังหวะในการตีลูกปิงปองจะต้องเน้นไปที่จังหวะที่เร็วกว่ายางเรียบ ส่วนยางประเภทเม็ดยาว จะใช้แรงดีดของเม็ดต่างๆ ในการดีดลูกปิงปองออกไป ซึ่งจะคาดเดาความหมุนต่างๆ ได้ยาก ส่งผลให้เกิดความสับสนในเรื่องความหมุนต่อผู้ต่อสู้ที่ไม่เคยเล่นกับยางเม็ดยาวมาก่อน
สำหรับในการฝึกซ้อมนั้น ยางปิงปองแต่ละประเภทจะมีแบบฝึกในการฝึกซ้อมที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นในการใช้ยางปิงปองแต่ละแบบให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดให้ได้นั้น นักกีฬาจะต้องมีแบบฝึกซ้อมของยางแต่ละประเภทให้ถูกต้องอีกด้วย
คำถาม ยางปิงปองมีอายุการใช้งานเท่าไหร่ ?
คำตอบ ขึ้นอยู่กับลักษณะของการใช้งาน และ การเก็บดูแลรักษาครับ หากเป็นนักกีฬาที่ซ้อมเป็นประจำอายุงานการใช้งานก็จะสั้นลง ส่วนหากเล่นเพื่อความสนุกสนานหรือนานๆ เล่นที ก็จะใช้งานได้นาน แต่โดยปกติแล้วยางจีนหน้ายางจะเสื่อมเร็วกว่ายางญี่ปุ่นและยางเยอรมันครับ
สำหรับการเก็บไม้ปิงปอง ไม่ควรเก็บไว้ในรถยนต์ในขณะที่จอดรถในที่ร้อนๆ เพราะจะทำให้หน้ายางและฟองน้ำเสื่อมเร็วมาก หรือเก็บไว้ในที่เย็นๆ จัด จะทำให้หน้ายางชื้นครับ
ส่วนข้อแนะนำอื่นๆ เกี่ยวกับการดูแลรักษายางก็คือเรื่องกาว ไม่ควรใช้กาว 3 เค หรือกาวปะยางรถในการติดยาง เพราะจะทำให้ยางเสื่อมเร็ว และ หน้ายางแตกตรงกลางเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งไม่ควรดึงยางปิงปองออกมาลอกกาวๆ บ่อย เพราะก็จะเป็นสาเหตุให้ยางปิงปองเสียเร็วยิ่งขึ้นได้เช่นกัน
คำถาม ไม้คาร์บอน ดีอย่างไร ?
คำตอบ ไม้คาร์บอนคือ ไม้ที่สอดไส้คาร์บอนเข้าไปในชั้นไม้ ซึ่งคุณสมบัติของคาร์บอนจะมีความแน่นกว่าเนื้อไม้ธรรมชาติ ส่งผลให้เนื้อไม้แน่นขึ้น ก็จะช่วยให้ลูกออกจากหน้าไม้ได้เร็วขึ้น โดยตามกติกาสากลแล้ว ไม้ปิงปองจะต้องเป็นเนื้อไม้ธรรมชาติ 85% ขึ้นไป นอกเนื้อจากนั้นจะใช้วัสดุอื่นๆ เช่น คาร์บอน , ไฟเบอร์กลาส หรือ ไทเทเนี่ยม ฯลฯ ก็ได้
สำหรับจุด Sweet Spot นั้น ไม้ที่มีไส้คาร์บอนจะมี Sweet Spot หรือ จุดที่ลูกจะกระดอนมากที่สุด จะกว้างกว่าไม้แบบที่ไม่มีไส้คาร์บอน
แต่ในปัจจุบัน ไม้ปิงปองที่มีไส้คาร์บอนบางรุ่น ก็ไม่จำเป็นต้องแรงหรือเร็วเสมอไป เพราะผู้ผลิตในปัจจุบันยอมรับว่า "หากไม้เร็วหรือแรงเกินไป ก็จะทำให้ควบคุมลูกปิงปองได้ยากลำบากขึ้น" จึงได้ผลิตเนื้อไม้ไส้คาร์บอนที่เน้นการควบคุมลูกขึ้นมาด้วย
คำถาม แล้วไม้ที่ไม่มีไส้คาร์บอน หรือเนื้อไม้ธรรมชาติล้วนๆ ดีอย่างไร ?
คำตอบ แน่นอนในเรื่องราคา จะมีราคาที่ถูกกว่า ส่วนจุดเด่นๆ ของเนื้อไม้ธรรมชาติก็จะเป็นเรื่องของความรู้สึกในการสัมผัสลูกและการควบคุมลูกซึ่งจะคุมลูกได้ดีกว่าไม้ที่มีไส้คาร์บอน
คำถาม ที่ร้านมีบริการประกอบไม้กับยางปิงปองหรือไม่ และใช้เวลานานแค่ไหน ?
คำตอบ สำหรับยางปิงปองและไม้เปล่าที่ซื้อจากทางร้านที่หน้าร้าน ทางร้านติดประกอบให้ฟรีครับ ใช้เวลาประกอบไม่เกิน 10 นาทีครับ แต่สำหรับท่านใดที่นำยางจากที่อื่นมาให้ทางร้านตัด ทางร้านคิดค่าบริการด้านละ 30 บาท หรือหากนำมาให้ทางร้านติดกาวเฉยๆ คิดด้านละ 20 บาทครับ
ส่วนลูกค้าต่างจังหวัดหากต้องการให้ทางร้านตัดติดยางปิงปองไปให้ ต้องรบกวนโอนชำระค่าสินค้าเข้าบัญชีทางร้านก่อนนะครับ ซึ่งทางร้านจะตัดและติดยางไปให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย แต่จะไม่มีการติดเทปติดขอบไม้ปิงปองไปให้ ถ้าลูกค้าต้องการให้ติดขอบกรุณาเลือกซื้อขอบไม้ปิงปองได้เลยครับ และทางร้านจะติดขอบให้ไปเลย
คำถาม ใช้บัตรเครดิต ทางร้านคิดค่าธรรมเนียมหรือเปล่า ?
คำตอบ ทางร้านมีบริการรับบัตรเครดิต และไม่คิดค่าธรรมเนียม แต่ขั้นต่ำในการใช้บัตรเครดิตต้อง 500 บาท ขึ้นไปครับ
คำถาม หากมาซื้อสินค้าที่ร้านมีที่จอดรถไหม และเปิดปิดวันไหนบ้าง ?
คำตอบ มีครับ
สาขาถนนรามคำแหง ซอย 30 / 1 สามารถจอดรถที่หน้าร้านได้เลย รวมถึงในซอยตรงไหนมีที่ว่างสามารถจอดได้หมดครับ
สาขาถนนวิภาวดีรังสิต ซอย 4 จะมีที่จอดรถใต้ตึกสำหรับลูกค้า 2 คัน รวมถึงในซอยหากตรงไหนว่างก็จอดได้เช่นกันครับ
สาขาถนนราชพฤกษ์ - รัตนาธิเบศน์ - กาญจนาภิเษก มีที่จอดรถหน้าร้าน , ข้างร้าน และที่จอดรถส่วนกลางในหมู่บ้านครับ
คำถาม หากอยู่ต่างจังหวัดจะสั่งซื้อและจัดส่งสินค้าแบบใดจึงจะสะดวกที่สุด ?
คำตอบ ทางร้านมีลูกค้าประจำทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด สำหรับท่านที่อยู่ต่างจังหวัดสามารถโอนเงินเข้าบัญชีของทางร้านโดยตรง ลูกค้ารอรับสินค้าอยู่ที่บ้าน หรือสามารถสั่งซื้อได้ในระบบพัสดุเก็บเงินปลายทาง ( คือ ไปรับสินค้าและชำระค่าสินค้าที่ ที่ทำการไปรษณีย์ โดยทางไปรษณีย์จะเป็นผู้ส่งเงินค่าสินค้าให้ทางร้านเอง ) วิธีการสั่งซื้ินสินค้า CLICK