ในโลกของการผลิตอุปกรณ์กีฬาปิงปองในส่วนของยางปิงปองนั้น มีแหล่งผลิตอยู่ใน 3 ประเทศหลัก คือ ประเทศจีน , ประเทศเยอรมัน  และ ประเทศญี่ปุ่น   ซึ่ง 3 ประเทศนี้เป็นแหล่งผลิตใหญ่ของโลก โดยแต่ละประเทศก็มีจุดเด่นในการผลิตยางให้มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง และให้นักกีฬาของตนเอง หรือพรีเซ็นเตอร์ในสังกัด นำออกใช้ในการแข่งขันระดับนานาชาติ ซึ่งผลการแข่งขันทุกท่านก็น่าจะทราบกันดีว่านักกีฬาจากประเทศไหนที่เป็นผู้คว้าชัยในกีฬาประเภทนี้ได้มากที่สุดในโลก

ในส่วนของหน้ายางปิงปอง (TOP SHEET) ด้านบนสุดนั้น แบ่งได้ออกเป็น 2 กลุ่มคือ 

1. หน้ายางแบบ STICKY หรือ TACKY (หน้ายางแบบเหนียว) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นยางปิงปองที่ผลิตจากประเทศจีน
2. หน้ายางแบบ NON STICKY หรือ NOT TACKY (หน้ายางแบบไม่เหนียว) นิยมผลิตจากประเทศเยอรมันและญีุ่่ปุ่น

หน้ายางปิงปองแบบ "Sticky" (เหนียว) และ "Non-Sticky" (ไม่เหนียว) มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเล่นและสไตล์ของผู้เล่นแต่ละคนครับ

สำหรับคุณสมบัติ ข้อแตกต่างระหว่างหน้ายางแบบเหนียว และ ไม่เหนียว มีดังต่อไปนี้......

ยางปิงปองแบบ Sticky / Tacky (เหนียว)

คุณสมบัติโดยทั่วไป : หน้าผิวยางมีความเหนียวคล้ายกาว ทำให้สามารถยึดเกาะลูกปิงปองได้ดีเยี่ยม

การสร้างความหมุน (Spin): เป็นจุดเด่นที่สุดของยางประเภทนี้ ความเหนียวของหน้ายางช่วยให้ผู้เล่นสามารถสร้างแรงหมุนให้กับลูกได้สูงมากเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับการเสิร์ฟลูกหมุน, ลูกท็อปสปิน (Topspin) และลูกตัด (Backspin) ที่ต้องการความหมุนมากๆ เพื่อให้คู่ต่อสู้รับได้ยาก

การสร้างความเร็ว (Speed) : โดยปกติแล้วยางเหนียวมักจะมาพร้อมกับฟองน้ำที่แข็งและมีความยืดหยุ่นน้อยกว่ายางไม่เหนียว ทำให้ลูกพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วน้อยกว่า แต่จะเน้นไปที่การควบคุมและการสร้างสปินมากกว่า 

เทคนิคการตี : ผู้เล่นต้องใช้เทคนิคการ "เสียดสี" กับลูกเป็นหลัก เพื่อให้ประสิทธิภาพด้านความหมุนอย่างเต็มที่

เหมาะสมกับสไตล์การเล่นแบบ : เน้นความหมุน และ การควบคุมลูกที่ดี  ไม่ต้องการความเด้งมาก

ยางปิงปองแบบ Non-Sticky / Non-Tacky (ไม่เหนียว)

คุณสมบัติ : หน้าผิวยางมีความยืดหยุ่นและเด้งสูง ไม่มีความเหนียวเหมือนยาง Sticky / Tacky

การสร้างสปิน (Spin) : ยังสามารถสร้างความหมุนได้ดี ซึ่งจะอาศัยแรงจากการกระทบและฟองน้ำที่ยืดหยุ่นมากกว่าความเหนียวของหน้ายาง

ความเร็ว (Speed): เป็นจุดเด่นหลักของยางประเภทนี้ ยางไม่เหนียวมักจะให้ความเร็วและแรงส่งที่สูงกว่า เหมาะสำหรับการเล่นเกมบุกที่เน้นการตบ (Smash) และการบล็อก (Block) ตั้งรับ ที่ต้องการให้ลูกกลับไปอย่างรวดเร็ว

เทคนิคการตี : ผู้เล่นสามารถใช้เทคนิคได้หลากหลาย ทั้งการตีแบบเสียดสีและการตีแบบกระแทก เพื่อใช้ประโยชน์จากความเด้งของยางได้เต็มที่

เหมาะสมกับสไตล์การเล่นแบบ : สไตล์การบุกเร็ว, การโต้กลับที่รุนแรง และผู้เล่นที่ชอบความรู้สึกในการตีที่ "เด้ง" และรวดเร็ว


ปัจจุบัน  การแข่งขันพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ของยางปิงปองมีการพัฒนาแข่งขันกันอย่างหนัก  เนื่องจากค่ายจากเยอรมัน และ ญี่ปุ่น  ต้องการที่จะเข้าไปทำตลาดยางปิงปองในประเทศจีน  ซึ่งประเทศจีนถือว่าเป็นตลาดแหล่งใหญ่ที่สุดในโลกเพราะมีผู้เล่นจำนวนมาก รวมถึงเป็นประเทศที่มีการเริ่มฝึกนักกีฬาตั้งแต่ยังเล็กตั้งแต่ 4 ขวบขึ้นไปกันแล้ว  ดังนั้นพื้นฐานและทักษะต่างๆ ของนักกีฬาปิงปองจากประเทศจีนจึงเหนือกว่าทุกประเทศในโลก  รวมถึงเป็นกีฬาอันดับ 1 ของประเทศจีนทั้งผลงานจากการแข่งขันและจำนวนผู้ที่นิยมเล่นมากมาย  มีศูนย์ฝึกและสถานที่เล่นปิงปองกระจายไปทุกๆ มลฑลของประเทศจีน  รวมถึงหากคุณต้องการเล่นปิงปองที่ประเทศจีนจะมีคลับต่างๆ ไว้บริการอย่างมากมายครับ

ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่ายางปิงปองที่ผลิตจากประเทศจีน จะมีลักษณะหน้ายางที่เหนียว ยึดเกาะลูกที่ดี  จึงทำให้ผู้ผลิตจากค่ายเยอรมันและญี่ปุ่น ต้องปรับตัวในการผลิตยางเพื่อให้ได้คุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับยางจีน  เพื่อให้นักกีฬาจีนได้คุ้นเคยและใกล้เคียงกับยางจีนที่เคยใช้อยู่   ซึ่งขณะนี้ค่ายญี่ปุ่น ซึ่งนำโดย BUTTERFLY ได้ผลิตขึ้นมา 2 รุ่น  และ  ค่ายเยอรมัน DONIC ได้ผลิตขึ้นมา 1 รุ่น  ดังนี้..........

BUTTERFLY DIGNICS 09C  คลิ๊กเพื่อศึกษาคุณสมบัติได้ที่นี่

BUTTERFLY GLAYZER 09C  คลิ๊กเพื่อศึกษาคุณสมบัติได้ที่นี่

DONIC BLUE GRIP  คลิ๊กเพื่อศึกษาคุณสมบัติได้ที่นี่